การจัดการสินค้าคงคลังแบบทันเวลาพอดี Just In Time (JIT)
3 กรกฎาคม 2568
การประกอบธุรกิจ เรื่องของต้นทุน เวลา กระบวนการ และความผิดพลาดในงาน เป็นสิ่งที่สำคัญ ในการกำหนดทิศทางของธุรกิจให้เป็นไปในทางที่ดี และมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับระบบการจัดการสินค้าคงคลังแบบทันเวลาพอดี Just In Time (JIT) ที่จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่ดีมากยิ่งขึ้น ที่เราจะมาแบ่งปันสาระน่ารู้ และอธิบายให้ทุกคนเข้าใจในวันนี้กัน
Just In Time คืออะไร
ระบบการจัดการสินค้าคงคลังแบบทันเวลาพอดี หรือ Just In Time เป็นระบบที่จะเข้ามาช่วยให้การดำเนินงานต่างๆภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้คือระบบที่จะช่วยให้ค่าใช้จ่าย และต้นทุนด้านเวลาน้อยที่สุด ปัญหาในกระบวนการการผลิตน้อยที่สุด โดยต้องอาศัยการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงการทำงานทาง Supply Chain ต่างๆที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ จึงอาจเป็นหลักการในอุดมคติที่เป็นที่รู้จักในหลายๆองค์กร
คำจำกัดความของ Just In Time
การผลิตหรือการส่งมอบ สินค้าหรือบริการ รวมถึงการใช้วัตถุดิบ ปริมาณการผลิต และเวลาในการผลิต ตามความต้องการของลูกค้า โดยที่วัตถุดิบ (Raw Material) งานระหว่างทำ (Work In Process) สินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) กลายเป็นศูนย์ หรือไม่มีสินค้าคงคลังนั้นเอง โดยมีวัตถุประสงค์ในการผลิตแบ่งเป็นแบบดึงเข้า และแบบผลักออกคำจำกัดความตามกลยุทธแบบดึงของ Just In Time
การผลิตสินค้าตามข้อมูลความต้องการที่เกิดขึ้นจริงของลูกค้า โดยทำหน้าที่จัดการการผลิต กำหนดปริมาณการผลิต เวลาการดำเนินงาน และต้นทุนต่างๆ และถ่ายทอดสินค้าไปยังตลาดสินค้าพอดีกับความต้องการที่เกิดขึ้นคำจำกัดความตามกลยุทธแบบผลักของ Just In Timeสินค้าหรือบริการ ที่มีปริมาณการผลิตที่ได้จากการพยากรณ์หรือคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าที่จะเกิดขึ้น โดยคาดการณ์จากหลักการดังต่อไปนี้
- Zero Inventoryหรือวัสดุคงคลังอยู่ในระดับน้อยที่สุดหรือเท่ากับศูนย์
- Zero Lead time หรือระยะเวลาการรอคอยกระบวนการผลิต ลดให้เหลือน้อยที่สุด
- Zero Failuresหรือขจัดปัญหาหรือของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต
- 7 Wasteหรือขจัดความสูญเปล่าในการผลิต ได้แก่ การผลิตที่มากเกินไป การรอคอย การขนส่งเกินความจำเป็น กระบวนการผลิตที่ขาดประสิทธิภาพ การมีวัสดุหรือสินค้าคงคลังเกินความจำเป็น การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น การผลิตของเสียหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ข้อดี-ข้อเสียของ Just In Time
ข้อดีของ Just In Time
- การลดสินค้าคงคลัง และค่าใช้จ่ายในการจัดการสินค้าคงคลัง
- การควบคุมการผลิตดีได้มากยิ่งขึ้น สินค้ามีคุณภาพสูงขึ้น และของเสียในการผลิตน้อยลง
- การตอบสนองความต้องการของตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะมีการคาดการณ์ที่ถูกต้องและแม่นยำ ทำให้สินค้ามีพอดีกับความต้องการต่างๆ ผู้ประกอบ
- การมีกระแสเงินสดที่ดีขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องลงเงินก้อนใหญ่กับค่าใช้จ่ายต่างๆ และนำเงินทุนมาใช้หมุนเวียนภายในธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
ข้อเสียของ Just In Time
- สินค้ามีความเสี่ยงที่จะขาดตลาด เนื่องจากความคลาดเคลื่อนในการคาดการณ์ความต้องการสินค้าของลูกค้า ทำให้เสียโอกาสในการขายสินค้าต่างๆไป อาจก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กร เช่นการไม่มีสินค้าคงคลังสำรอง ทำให้คนงานต่องหยุดการทำงาน
สิ่งที่สำคัญในการจัดทำ Just In Time
การรวบรวมข้อมูล และวางแผนระบบในการทำงาน Just In Time การรวบรวมข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับระบบการทำงาน และระบบการผลิตสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้การเริ่มต้นระบบ Just In Time ทำได้ง่าย ถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น อาจใช้ lean process กำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกก่อน เพื่อให้การวางแผนการทำงานหรือคาดคะเนต่างๆ และพัฒนาแผนการผลิตสินค้า เป็นไปในทิศทางที่แม่นยำมากที่สุดการสื่อสารภายในองค์กร เกี่ยวกับแผนและระบบ Just In Time ระบบที่ดีขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ซึ่งการสื่อสารที่ดี รวมถึงการกำหนดทิศทางขององค์กรจะช่วยให้การทำงานของบุคลากรภายในองค์กรราบรื่น เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
การรวบรวมข้อมูล และการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าในระบบ Just In Time ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบ Just In Time ซึ่งจำเป็นที่จะต้องอาศัยการรวบรวมข้อมูลทั้งจากภายในองค์กร เช่น ระบบสต๊อกสินค้า ข้อมูลการสั่งซื้อย้อนหลัง ข้อมูลพนักงานที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ความต้องการภายนอกองค์กร เช่น ความต้องการสินค้าในอุตสาหกรรมนั้นๆ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เป็นตัวกำหนดทิศทางการคาดการณ์ให้ดีได้อีกด้วยการประเมินประสิทธิภาพระบบงาน Just In Time เมื่อเข้าสู่ระบบ Just In Time การวัดและประเมินผลของงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ทราบประสิทธิภาพงานที่แท้จริง รวมถึงการนำจุดด้อยไปปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกด้วย
ระบบ Just In Time จะช่วยให้การดำเนินงานในการผลิตและการบริการ มีค่าใช้จ่ายลดลง ใช้เวลาลดลง และกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นในการดำเนินการออก จากการรวบรวมข้อมูลและคาดการณ์ที่มีความถูกต้อง แม่นยำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานต่างๆให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า ที่ควรทำการศึกษา และทำความเข้าใจ ให้ธุรกิจที่กำลังดูแลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสาระความรู้ที่เรานำมาฝากกัน
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรืออาจกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ในการขยายธุรกิจส่งออก-นำเข้าระหว่างประเทศ ซีพีแอลยินดีให้คำปรึกษา พร้อมทั้งบริการขนส่งสินค้า ทางเครื่องบิน ทางรถบรรทุก และทางเรือ บริการรับสินค้าให้ฟรี บริการรวบรวมสินค้าและแพ็คสินค้าให้ฟรี รวมถึงเอกสารสำคัญและการเดินพิธีการที่ยุ่งยาก ให้เราช่วยเหลือและดูแลคุณได้นะคะ สอบถามได้ที่ CPL โทร 091-519-4426 เพื่อให้การส่งของท่านเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถนำรายละเอียดสินค้าที่ต้องการจะส่งมาให้เราช่วยตรวจสอบก่อนได้ที่ Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com ได้เลยค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมจาก WHAT IS EP.47 : JUST IN TIME(JIT) การบริหารจัดการสินค้าแบบทันเวลาพอดี หรือ Just In Time (JIT) https://www.youtube.com/watch?v=yd3tE_J5tXA
บทความอื่น ๆ
17 กรกฎาคม 2568
อ่านเพิ่มเติมเครื่องหมายมอก.คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?